หน้าเว็บ

21/6/54

วันนี้มาต่อกันด้วยเรื่องของ Harry Potter ค่ะ
ตอนนี้ Harry Potter and the deathly hallows ตอน 7.2ใกล้จะเข้าโรงมาแล้ว
หลังจากที่ทิ้งระยะเวลาจากตอนแรกไปนานพอสมควร หลายคนที่ไม่เคยติดตาม
หรือดูบ้างไม่ดูบ้าง พอมาดูตอนใกล้จบแล้วชอบบ่นว่าหนังดูไม่รู้เรื่อง ทุกที (ได้ยินมาบ่อยๆ)
อยากจะบอกว่าถ้าอยากดูรู้เรื่อง สนุก ก็ให้กลับไปย้อนดูภาค 1-6 และ 7.1 ให้เรียบร้อยก่อน
แล้วค่อยมาบ่นว่าหนังดูไม่รู้เรื่อง หรือใครที่ดูหนังแล้วยังติดใจส่วนไหน
ให้ซื้อหนังสือมาอ่านได้เลย รับรองว่าได้อรรถรสกว่าดูหนังเยอะเลยค่ะ เพราะแน่นอน
ว่าผู้สร้างคงไม่สามารถสร้างหนังที่มีความยาวได้อย่างในหนังสือแน่
(แต่ถึงแม้จะตัดรายละเอียดบางส่วนไปก็ทำได้ดี ซึ่งต่างจากเพอร์ซีย์ แจ็กสัน
 ที่โดยส่วนตัวแล้วไม่่ประทับใจกับหนังที่ทำออกมาเท่าไหร่เพราะได้อ่านหนังสือ
ก่อนหน้านี้แล้ว)
แต่ขอบอกว่าถ้าได้อ่านหนังสือเรื่องนี้แล้วถึงกับวางไม่ลงกันเลยทีเดียวค่ะ
เพราะเอมเองอ่านเล่มนึงก็ไม่เกิน 2 วันก็จบแล้ว นึกแล้วก็ไม่อยากให้จบเลย
ผู้เขียนสร้างโครงเรื่องไว้ได้ดีมาก อ่านแล้วมีความผูกพันธ์ไปกับตัวละคร
และปมหรือข้อสงสัยต่างๆในแต่ละภาคจะมีความเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกัน
อย่างน่าทึ่ง  รวมไปถึงจินตนาการถึงบุคลิกลักษณะของตัวละครแต่ละตัว
ที่ต้องชื่นชม เจ เค ว่าทำได้ดีมาก (อ่านแล้วจะสามารถจินตนาการถึงหน้าตา
ของตัวละครนั้นๆได้ โดยไม่ต้องรอดูหนัง)
สรุปแล้วแนะนำให้อ่านค่้ะ เชื่อว่าใครที่มีโอกาสได้สัมผัสเรื่องราวที่น่าประทับใจ
นี้แล้ว ต้องชอบทุกคนแน่ค่ะ

เมื่อความซวยมาเยือน หรือเพราะความเลวของคน


ไม่ได้เข้ามาอัพเดท บล็อคซะนาน หลังจากที่มัวแต่ยุ่งกับภารกิจต่างๆนาๆ
วันนี้พอมีเวลาเลยเข้ามาอัพข่าวสารซะหน่อย เนื่องด้วยเอมเพิ่งเปิดร้านขายของ
ผ่านเว็บไซต์ และก็มีลูกค้าสั่งของเข้ามา
 และวันนั้นตอนพักเที่ยงของการทำงานหลักที่ออฟฟิศ เลยกลับไปเอาของที่จะส่งให้ลูกค้า
ซึ่งแพ็คใส่ซองเรียบร้อยแล้ว พอไปถึงที่เคาน์เตอร์ไปรษณีย์ปรากฏว่าเขาพัก 1 ชั่วโมง
เลยขี้เกียจรอก็เลยนั่งรถกลับมาออฟฟิศและมาแวะร้านเย็บผ้า  เพื่อเอากางเกงที่ตัวเองซื้อ
มาแก้เพราะว่ามันหลวมไป ด้วยความที่ร้านแคบและหน้าร้านก็มีโต๊ะตัวหนึ่งวางอยู่
เอมจึงวางซองของที่จะส่งให้ลูกค้าไว้บนโต๊ะ แล้วตัวเองก็หันหน้าไปคุยกับช่าง
ว่าจะตัดกางเกงออกแค่ไหน ยังไง พอคุยเสร็จหันมาจะหยิบซองของเพื่อกลับไปออฟฟิศ
  ปรากฏว่าของหายไป
พี่เจ้าของร้านก็ช่วยหาในร้านด้วย เผื่อเราลืมวางผิดที่ แต่ก็ไม่เจอเพราะถ้ามั่นหล่น
ลงจากโต๊ะ มันก็ควรจะอยู่บริเวณโต๊ะนั้นเพราะของมันก็มีน้ำหนักของมัน
และตอนนั้นก็ไม่ได้มีลมอะไรมาพัดให้มันปลิวไปได้ขนาดนั้น เค้าเลยตะโกนถาม
ร้านขายของ ที่อยู่ถัดไปอีกหน่อยว่า
"เห็นซองสีน้ำตาลมั้ย"
เค้าบอกว่าเห็นเด็กผู้ชายเตะซองสีน้ำตาลผ่านหน้าร้านเค้าไป
ทีนี้ล่ะใจหายเลยรู้สึกว่าความซวยมาเยือนแล้ว
เอมจึงตามไปถามที่วินมอไซค์ ที่เลยไปอีกหน่อย เขาก็บอกว่าเห็นมันเตะซองของ
 ถ้ามถนนไปอีกฝั่งก็วิ่งตามไปอีก เจอวินอีกคนก็ถามเขาบอกว่าเห็นเด็กผู้ชาย 3-4 คน
เดินเตะซองมาแล้วมันก็ข้ามสะพานลอยไปอีกฝั่งแล้ว และแล้วสายตาเราก็เหลือบไปเห็น
พลาสติกกันกระแทกในซองตกอยู่ริมถนนด้านซ้ายมือ พอหันมาทางขวาก็เจอซองสีน้ำตาล
ที่จ่าหน้าถึงลูกค้าที่เราจะส่งของให้เขา อยู่ในสภาพที่ถูกฉีกขาดและแน่นอน
ของข้างในหายไปแล้ว 
ตอนนั้นโมโหมากเลือดขึ้นหน้าเลย แบบว่าเจ็บใจมาก ไอ้เด็กเวรพวกนี้ถ้าตามไปเจอ
จะเอามันให้หนักเลย  นิสัยเลวจริงๆ ต้องบอกว่ามันเป็นระยะเวลาแค่แป๊บเดียวเท่านั้น
ที่เราหันไปคุยกับแม่ค้า  แต่พอหันมาของเราหายไปเลย สรุป ไม่มีของส่งให้ลูกค้า
 ตัวเองก็เพิ่งเปิดร้านเสียความน่าเชื่อถืออีก อย่าให้รู้นะว่าเป็นใคร
ถ้ากูรู้ว่าพวกมึงเป็นใครกูเอาเรื่องแน่ไอ้หัวขโมย เลวแต่เด็กเลย
 ค่าของอ่ะไม่เท่าไหร่แต่เจ็บใจนี่สิ กุยอมมะด้ายยยยยยย

8/3/54

สรุปว่าผีหลอกหรือแผ่นดินไหว??



ในค่ำคืนอันเงียบสงบ ภายในห้องพักที่เงียบสงัดเพราะห้องนี้ไม่มีทีวีหรือ
เครื่องเสียงใดๆทั้งสิ้น ด้วยความที่เธอเพิ่งจะย้ายเข้ามาอยู่หอนี้ไม่ถึงอาทิตย์
ดังนั้นจะมีก็แต่หญิงสาวเจ้าของห้องเพียงคนเดียวเท่านั้น !!
เธอกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียงเงียบๆคนเดียว อย่างเพลิน เพลิน
แต่แล้ว......อยู่ๆเตียงที่เธอกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่นั้นก็สั่นไหวๆ
เหมือนมีใครมาเขย่า ด้วยความตกใจเธอจึงนั่งตั้งสติ แล้วก็...สั่นๆๆ
เฮ้ย! เกิดไรขึ้นเนี่ยหรือว่าแผ่นดินไหวหว่าหรือว่า ผีหลอก! คงไม่หรอกน่า
สงสัยแผ่นดินไหวมากกว่า เธอคิดกับตัวเองแล้วก็ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้
จนกระทั่งเข้านอน
และแล้ววันรุ่งขึ้นตอนเย็นๆเธอจึงมีโอกาสไปถามพี่ยามที่หอว่า
 "พี่เมื่อคืนแผ่นดินไหวเหรอคะ"
พี่ยามบอก "ปล่าวนี่ครับ"
อ่าวกำแล้วสิ ถ้าแผ่นดินไม่ไหวก็แสดงว่า...................
"แล้วทำไมเตียงห้องหนูมันสั่นๆไหวๆยังกะแผ่นดินไหวแน่ะ "
เธอถามไปเผื่อจะได้รับคำตอบที่กระจ่างกว่านี้
  "อ๋อ สงสัยรถผ่านน่ะครับ"
แล้วพี่อีกคนที่นั่งอยู่ด้วยกันก็บอกว่า
 "ถ้าพวกรถยนต์หรือรถคันใหญ่ๆหน่อยขับผ่านมาตึกมันก็จะสะเทือนๆ
อย่างงี้แหละครับ ตอนแรกผมก็นึกว่าแผ่นดินไหวเหมือนกัน
แต่หลังๆลองสังเกตดูมันก็เป็นอย่างที่บอกทุกครั้งอ่ะครับ จนตอนนี้ผมชินละ"
ห๊ะ แค่รถผ่านเนี่ยนะทำให้ตึกสะเทือนอย่างงั้นเลยเรอะ เฮ้อ
แต่ก็ยังดีที่ไม่ใช่ผีหลอก หุหุ ถ้าเป็นอย่างนั้นคงต้องย้ายหอด่วนนนนน
แต่ว่าแล้วนี่ถ้าแผ่นดินไหวขึ้นมาจริงๆตึกมันจะไม่ถล่มลงมา
เลยเหรอคะพี่ เฮ้ออออ T_T